วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

อาชีพในอนาคต

อาชีพในอนาคตของผมคือ "จิตแพทย์"  เหตุผลที่ผมอยากเป็นเพราะผมอยากช่วยเหลือตนที่มีปัญหาทางจิตใจและได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ป่วย

มาทำความรู้จักกับจิตแพทย์

จิตแพทย์คือ  แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านและได้รับการรับรองให้ทำการรักษาความผิดปกติทางจิต จิตแพทย์ต้องเป็นแพทย์อยู่เองด้วย และสามารถวินิจฉัยโรคผู้ป่วยได้ จิตแพทย์จึงเป็นหนึ่งในกลุ่มสาขาผู้ชำนาญการด้านสุขภาพจิตจำนวนจำกัด ที่สามารถจ่ายยาเพื่อรักษาอาการทางจิตของผู้ป่วยได้ 



จิตแพทย์เรียนอะไรกันบ้าง 
ก็เรียนเหมือนหมอทั่วไป ตั้งแต่ การซักประวัติ ตรวจร่างกาย(และการตรวจสภาพจิต) เรียนเกี่ยวกับโรคต่างๆ ตั้งแต่ กลไกการเกิดโรค พยาธิสภาพการเกิดโรค สาเหตุการเกิดโรค การดำเนินโรค การรักษาโรค การป้องกันการเกิดโรค แต่ลงลึกในโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติในเชิงอารมณ์ ความคิด การรับรู้ พฤติกรรม ความสัมพันธ์ อาจจะต่างกับแพทย์สาขาอื่นตรงที่การตรวจสภาพจิตนี่แหละ ที่แพทย์สาขาอื่นรักษาโรคที่ตรวจเจอแบบเห็นกันจะๆ ขาหัก เป็นหนอง ตับแตก สิวขึ้น ท้อง เป็นต้น แต่จิตแพทย์รักษาแผลอีกแบบหนึ่ง แต่เป็นแผลชนิดที่มองไม่เห็น ( Invisible wound ) แทน 

ดังนั้นทักษะที่ต้องเพิ่มพูนอย่างมากในการเรียนคือ ทักษะการฟัง การตั้งคำถาม การแปลความจากสิ่งที่เห็น ความช่างสังเกต การ ใส่ใจกับคนตรงหน้า เพื่อให้เกิดความเข้าใจโลกภายใน แผลสด/แผลเป็นที่ซ่อนอยู่ภายในตัวผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด การรักษานอกจากการเรียนเรื่องยาที่ส่วนใหญ่มีผลออกฤทธิ์ต่อสารสื่อประสาทในสมองแล้ว ยังต้องเรียนเรื่องการทำจิตบำบัด ซึ่งมีหลากหลายแนวมาก แต่ละแบบก็เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละประเภทไม่เหมือนกัน นอกจากรู้หลักการแล้ว วิธีการเรียนก็ต้องเอาตัวเข้าแลก ต้องใช้ประสบการณ์ของตัวเองเพื่อแลกเปลี่ยน เข้าใจ เรียนรู้ พัฒนากระบวนการทางจิตใจ (ซึ่งนี่ก็เป็นข้อดีของการเรียนจิตเวช คือ เราสามารถดูแล รักษา พัฒนาตัวเองได้ไปพร้อมๆกัน) 


Credit